Rating: 0/5 (6 votes)
You have an error in your SQL syntax; check the manual that corresponds to your MariaDB server version for the right syntax to use near '' at line 1
วัดเชียงมั่น
วันเปิดทำการ: ทุกวัน
เวลาเปิดทำการ: 08.00 - 17.00
วัดเชียงมั่น วัดในเชียงใหม่ วัดภาคเหนือ อยู่ถนนราชภาคินัย อำเภอเมือง ที่เที่ยวเชียงใหม่เป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในตัวเมืองเชียงใหม่เมื่อพญามังรายสร้างเมืองเชียงใหม่เมื่อ พ.ศ. 1839 พระองค์ทรงยกพระตำหนักเชียงมั่น ถวายเป็นพระอารามให้ชื่อว่า วัดเชียงมั่น
วัดเชียงมั่น ทริปเชียงใหม่ เที่ยวภาคเหนือ วัดนี้เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสำคัญของเชียงใหม่ คือ พระเสตังคมณี หรือพระแก้วขาว ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของประชาชนชาวเชียงใหม่ มีสถาปัตยกรรมสำคัญ ได้แก่ เจดีย์สี่เหลี่ยมผสมทรงกลม ฐานช้างล้อม พระอุโบสถ และหอไตร และที่สำคัญคือ เจดีย์ทรงระฆังฐานสี่เหลี่ยม และมีช้างล้อมที่ฐานหมายความว่าคำจุนพระพุทธศาสนาไว้
ประวัติโบราณสถาน นับเป็นวัดที่มีความสำคัญวัดหนึ่ง ที่ได้จารึกที่พบในวัดได้กล่าวถึงพญามังรายโปรดได้สร้างเจดีย์ขึ้นในที่ประทับ และสถาปนาขึ้นเป็นวัด โดยเรียกว่า วัดเชียงมั่น ซึ่งต่อมาในสมัยพญาติโลกราชโปรดให้สร้างเจดีย์ขึ้นใหม่ เมื่อปี พ.ศ. 2014 โดยในพงศาวดารโยนกได้กล่าวถึงพญามังรายได้เสด็จจากเวียงเชียงมั่นหรือเวียงเหล็กเข้าไปประทับในพระราชวังที่สร้างขึ้นใหม่ และในตำนานพิ้นเมืองเชียงใหม่ ดังกล่าวว่าพญามังรายได้ตั้งเวียงในชัยภูมิที่เรียกว่า เชียงมั่น
จากหลักศิลาจารึกที่ 76 ศิลาจารึกวัดเชียงมั่น พ.ศ. 1839 นั้นได้กล่าวถึงวัดเชียงมั่นว่า เมื่อพญามังรายได้ทรงสร้างที่ประทับชั่วคราวเพื่อควบคุมการสร้างเมือง เมื่อแล้วเสร็จก้ได้โปรดให้ก่อเจดีย์ตรงที่หอนอนบ้านเชียงมั่น โดยให้ชื่อว่าวัดเชียงมั่น ซึ่งนับเป็นพระอารามหลวงแห่งแรกของเมืองชียงใหม่ ต่อมา พ.ศ. 2014 ในรัชสมัยพญาโลกติการาช โดยทรงโปรดให้สร้างเจดีย์ด้วยศิลาแลง 87 ปีต่อมานั้นพม่าเข้ายึดครองเมืองเชียงใหม่ เจ้าฟ้ามังทรา (สมเด็จพระมหาธัมมิกะราชาธิราช) ได้โปรดให้พระยาแสนหลวงสร้างเจดีย์วิหาร, อุโบสถ, หอไตร, ธัมมสนาสนะ และกำแพงประตูโขง สมัยพระจ้ากาวิละ (พ.ศ. 2325-พ.ศ. 2367) ได้ทรงบูรณะถาวรสถานเหล่านี้ใหม่อีกครั้ง
ลักษณะทางสถาปัตยกรรม ศิลปกรรมแบ่งออกได้ดังนี้
- เจดีย์ นั้นจะตั้งอยู่บนฐานเขียงสี่เหลี่ยม ซ้อนลดหลั่นกัน 2 ชั้นบนฐานประดับปูนปั้นรูปช้างครึ่งตัวโดยรอบ 15 เชือก โดยจะประดับช้างประจำมุม ๆ ละ 1 เชือก ขั้นระหว่างช้างปูนปั้นแต่ละเชือก ซึ่งจะประดับด้วยเสาลายเป็นภาพหน้าตัดของสถาปัตยกรรมอันประกอบด่วยฐานเขียง 2 ชั้น ได้แก่ บัวคว่ำ ประดับลูกแก้วอกไก่ 4 เส้น และบัวหงายรับกับพื้นชั้นบน ส่วนของฐานเขียงชั้นที่ 2 ด้านทิศตะวันออกมีบันไดนาค ซึ่งจะทอดยาวนับแต่ส่วนบนฐานเขียงชั้นที่ 2 ลงมาจนถึงพื้น
ถัดไปเป็นฐานปัทม์ย่อเก็จ และคั่นส่วนท้องไม้ด้วยลูกแก้วอกไก่ 1 เส้น รองรับองค์เรือนธาตุรูปสี่เหลี่ยมเพิ่มมุมไม้ 12 องค์ โดยองค์เรือนธาตุแต่ละด้านประดับซุ้มจรนำ ด้านละ 3 ซุ้ม โดยภายในประดิษฐานสิ่งสักการะ ยกเว้นซุ้มกลางด้านทิศตะวันตกซึ่งปิดทับด้วยประตูจำลองประดับลวดลายปูนปั้น โดยส่วนบนของซุ้มทั้ง 4 ชั้น ประดับลูกแก้วอกไก่ บัวหงาย และหน้ากระดานรองรับจรนำของแต่ละซุ้ม ส่วนองค์เรือนธาตุประดับลวดลายปูนปั้น ถัดไปเป้นบัวถลา 2 ชั้น มาลัยเถาแปดเหลี่ยม 4 ชั้น องค์ระฆัง บัลลังค์ และคาดด้วยลูกแก้วอกไก่ 1 เส้น วงฉัตรโลหะฉลุลายปรดับด้วยก้านตาล, ปล้องไฉน, ปลียอด และเม็ดน้ำค้าง
- วิหาร ทรวดทรงแบบล้านนา แต่ต่อมาได้รับการเปลี่ยนแปลงจากการซ่อมแซมกันต่อ ๆ มา
- อุโบสถ นั้นเป็นอาคารลักษณะรูปทรงล้านนา
- หอไตร นั้นจะเป็นอาคาร 2 ชั้น ชั้นล่างเป็นก่ออิฐฉาบปูน ที่ชั้นบนเป็นไม้